Last updated: 30 มี.ค. 2557 | 14408 จำนวนผู้เข้าชม |
การขับถ่ายคืออะไร? การขับถ่ายจัดเป็นกระบวนการขับถ่ายของเสียที่เหลือจากการที่ร่างกายดูดซับสารอาหารไปหล่อเลี้ยงซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอแล้ว และเหลือกากใยอาหาร ซึ่งจัดเป็นส่วนเกิน หรือเป็นของเสียที่ร่างกายไม่ต้องการแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งของเสียในลำไส้ ซึ่งเป็นอาหารเก่าประกอบด้วยกากอาหารที่มีกระบวนการหมักด้วยจุลินทรีย์ในลำไส้จนส่งผลเสียต่อสุขภาพ ประโยชน์ของการขับถ่าย? 1. ช่วยขับของเสียหรือสารพิษ ออกจากร่างกาย 2. ช่วยลดกลิ่นปากและกลิ่นกาย 3. ช่วยลดอาการร้อนใน 4. ช่วยลดการปวดเมื่อยเส้นเอ็น 5. ช่วยลดการเกิดสิว ฝ้า และผิวหมองคล้ำ 6. ช่วยลดหน้าท้องและส่วนเกินในร่างกาย 7. ป้องกันการเกิดโรคต่างๆ หากระบบขับถ่ายเป็นปกติ แต่หากกระบวนการขับถ่ายระบายบกพร่องจะทำให้เกิดอาการท้องผูก อุจจาระที่คั่งค้างอยู่ในลำใส้ใหญ่ หากเกิน 3 วัน ร่างกายจะดูดซึมอุจจาระเข้ามาในกระแสเลือดซึ่งถือว่าเป็นพิษ เมื่อร่างกายดูดซึมพิษไปแล้วก็จะไปคั่งค้างอยู่ตามเส้นเอ็นและกระแสเลือด ทำให้เกิดอาการปวดกษัยเส้น หรือปวดเมื่อยตามร่างกาย และเป็นเหตุให้เกิดโรคต่างๆได้ คำแนะนำในการทานยาระบาย 1.ไม่ควรทานต่อเนื่องทุกวัน เพราะจะทำให้ติดยาระบาย ควรทานไม่เกิน 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือทานเมื่อมีอาการท้องผูก 2. หากมีอาการท้องผูกติดต่อกันหลายวัน การทานยาระบายอาจเกิด อาการบิดมวล ไซร้ท้อง ในบางราย ควรทานคู่กับขมิ้นชัน 2 แคปซูล 3. ควรปรับพฤติกรรมประจำวันร่วมด้วย สาเหตุที่ทำให้การขับถ่ายผิดปกติ 1. ขาดการทานอาหารที่มีกาก หรือใยอาหาร เช่น ผัก ผลไม้ 2. ทานน้ำในแต่ละวันน้อยเกินไป 3. พักผ่อนไม่เพียงพอ 4. ขาดการออกกำลังกายเป็นประจำ 5. ภาวะความเครียด วิตกกังวล 6. การทานยาบางประเภท เช่น ยาปฏิชีวนะ ทำไมต้องทานยาระบาย ระบายคือการล้างลำไส้ จะช่วยทำความสะอาดและขจัดสิ่งสกปรก ของเสีย กากอาหาร รวมทั้งสารพิษที่ตกค้างให้หมดไป เนื่องจากของเสียเหล่านี้มักถูกขับถ่ายออกได้ไม่หมด จึงตกค้างอยู่ในลำไส้ หรือเกาะติดอยู่ตามผนังของลำไส้ สิ่งเหล่านี้จะเป็นผลร้ายต่อร่างกายจนทำให้เกิดอาการต่างๆของโรค เช่น ท้องผูกเรื้อรัง ถ่ายยาก ถ่ายไม่ออก ท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอ ผายลมบ่อยๆ ปวดท้อง ท้องเสีย ถ่ายเหลวเป็นประจำ ปวดศีรษะ คลื่นเหียนอาเจียน เวียนศีรษะ เหนื่อยง่าย ปากเหม็น ปากเปื่อย มีกลิ่นตัวแรง เป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง มีผื่นคันขึ้นตามตัว เป็นแผล เป็นฝีบ่อยๆ มีอาการหอบหืด ภูมิแพ้ เป็นลมพิษได้ง่าย ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดตามข้อ ริดสีดวงทวาร มะเร็งลำไส้ และมะเร็งตับ เป็นต้น ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคหรือมีอาการดังกล่าวนี้ จึงควรได้รับการล้างลำไส้ เพื่อขจัดของเสียและสารพิษที่คั่งค้างออกจากร่างกาย ทั้งยังสามารถลดความเสี่ยงของโรคด้วย “ สมุนไพรที่มีคุณสมบัติช่วยในการระบาย ” 1. ชุมเห็ดเทศ (Senna Alana) สรรพคุณ ช่วยระบาย แก้กษัย ถ่ายพยาธิ ขับปัสสาวะ และลดอาการริดสีดวงทวาร 2. มะขามแขก (Senna Angusiforia) สรรพคุณ เป็นยาระบายอ่อนๆ ถ่ายพิษที่เป็นมูกมัน ถ่ายน้ำเหลือง ถ่ายพิษไข้ ถ่ายพยาธิ แก้ริดสีดวง 3. โกฐน้ำเต้า (Rheum Palmatum) สรรพคุณ ระบายท้อง บำรุงธาตุ แก้ธาตุพิการ อาหารไม่ย่อย ขับลมในลำใส้ แก้ริดสีดวงทวาร 4. สมอไทย (Terminalia Chebula) สรรพคุณ ช่วยระบายพิษในตับ แก้น้ำดี แก้พิษร้อนภายใน ขับน้ำเหลืองเสีย ยาระบาย ที่ดี ควรมีคุณสมบัติอย่างไร 1. ไม่บิด ไม่มวนท้อง 2. ช่วยขับของเสียตกค้างออกจนหมด 2. ผลิตจากธรรมชาติ 3. ผลิตจากโรงงานที่ได้มาตรฐานการผลิตที่ดี |